ไม่เป็นแล้วคนเก่งอยากเป็นคนรวย! เริ่มด้วยสูตรการออมเงิน F.I.R.E.

          ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ใคร ๆ ก็พูดอยู่เสมอว่า “ฉันไม่อยากเป็นคนเก่ง แต่ฉันอยากเป็นคนรวย” ซึ่งถึงแม้จะเป็นวลีที่พูดเมื่อไหร่ก็เรียกเสียงหัวเราะได้ทุกที แต่เบื้องหลังความตลกยิ้มแห้งนี้ยังแฝงไปด้วยความต้องการที่จะมีอิสรภาพทางการเงินโดยไว เพื่อทำให้การทำงานหนักเป็นเพียงแค่ส่วนประกอบเล็ก ๆ ในชีวิตเท่านั้น
           หากในวันนี้ ใครที่กำลังมองหาเทคนิคการออมเงินที่จะช่วยให้ไขว่คว้าอิสรภาพทางการเงินเพื่อจะได้ไม่ต้องทำงานหนักไปตลอดชีวิต ลองมาทำความรู้จักกับเทคนิคการเก็บเงินสุดฮิตอย่าง F.I.R.E. หรือ Financial Independence, Retire Early กัน

รู้จัก F.I.R.E. กันก่อน
           ก่อนที่จะไปดูว่าสูตรการออมเงินอย่าง F.I.R.E. นั้นสามารถช่วยให้ทุกคนบริหารและเก็บเงินอย่างไรให้ประสบความสำเร็จและเพียงพอที่จะเกษียณอายุ ลองมาทำความเข้าใจกันสักนิดว่า แท้จริงแล้ว เทคนิคการเก็บเงินอย่าง F.I.R.E. นี้คืออะไรกันแน่
           โดย F.I.R.E. นั้นเป็นตัวย่อมาจากคำเต็ม ๆ ของ Financial Independence, Retire Early ซึ่งเป็นแนวคิดบริหารจัดการเงินที่ถือกำเนิดขึ้นในปีค.ศ. 1992 จากแนวคิดในหนังสือ Your Money or Your Life ที่เขียนขึ้นมาโดย Joe Dominguez และ Vicki Robin ที่ระบุว่า การมีอิสรภาพทางการเงิน แท้จริงแล้วต้องเริ่มจากการออมเงินในช่วงการทำงาน จากนั้นจึงเริ่มศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุน และนำเงินเก็บที่มีออกไปต่อยอดการลงทุนเรื่อย ๆ เพื่อในอนาคตจะได้มีเงินเพียงพอต่อการใช้ชีวิตโดยที่ไม่จำเป็นต้องทำงานหนักอีกต่อไป
          คำถามที่ตามมา คือ “จะทำอย่างไรให้มีเงินเก็บพอที่จะนำไปลงทุน” และแน่นอนว่า คำตอบง่าย ๆ สำหรับเทคนิคการเก็บเงินแบบ F.I.R.E. คือ การกลับมาพิจารณาถึงเหตุผลที่ทำให้เก็บเงินไม่อยู่ จากนั้นจึงวางแผนรายรับรายจ่ายใหม่เพื่อให้มีเงินเหลือเก็บ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือให้ทำรายรับรายจ่ายอย่างละเอียด พร้อมสังเกตพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเอง และหากมีรายจ่ายที่ไม่ได้จำเป็นต่อการดำรงชีวิตก็ให้ตัดออกและนำมาเป็นเงินเก็บนั่นเอง

ประเภทของการทำ F.I.R.E.

          Financial Independence, Retire Early หรือ F.I.R.E. นั้นมีแนวคิดพื้นฐานเหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ ให้ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นและเก็บเงินให้ได้มากที่สุด แต่หากมองลึกลงไปแล้ว นักสู้ทำงานหนักเพื่อรอวันเกษียณอย่างเรา ๆ ยังสามารถเลือกประเภทในการทำ F.I.R.E. ที่เหมาะสมกับชีวิตได้ ซึ่งในขั้นต้นนั้น การทำ F.I.R.E จะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้
          1 . Lean F.I.R.E.
​การทำ Lean F.I.R.E. ถือเป็นเทคนิคการออมเงินแบบสุดโต่งที่ผู้สนใจจะต้อง “ตัด” ทุกค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกจากชีวิตให้หมด เหลือเพียงแค่ค่าใช้จ่ายที่สำคัญ เช่น อาหาร 3 มื้อธรรมดา ไม่มีโอมากาเสะ หรือ บุฟเฟ่ต์ อีกทั้งยังไม่มีการซื้อของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ทำให้รู้สึกดีต่อใจ ซึ่งถึงจะช่วยให้มีเงินเก็บได้อย่างรวดเร็ว แต่คนที่ทำ Lean F.I.R.E. ก็จะต้องมีความอดทนและวินัยทางการเงินสูง ทำให้อาจเกิดความเครียดภายหลังได้ อีกหนึ่งตัวช่วยดีๆ สำหรับสายแข็งคือฟีเจอร์ล็อคกระปุก Grow ของแอป Kept ไม่ต้องกลัวเผลอใช้เงินเก็บ!

          2. Fat F.I.R.E.
สำหรับใครที่รู้ว่าเหตุผลที่ทำให้เก็บเงินไม่อยู่คืออะไร แต่ยังต้องการความดีต่อใจให้ชีวิตในบางช่วงเวลา การทำ Fat F.I.R.E. ก็อาจเป็นทางออกที่ช่วยตอบโจทย์ชีวิตให้ลงตัวกับเป้าหมายทางการเงินมากกว่า อย่างไรก็ดี หากเมื่อไหร่ที่มีการใช้จ่ายเพื่อซื้อของชิ้นใดก็ตาม ผู้ที่ทำ Fat F.I.R.E. ก็จะต้องหาวิธีบริหารเงินเพื่อไม่ให้เงินออมหายไปจนทำให้ทำ F.I.R.E. ไม่สำเร็จด้วย เช่น ตั้งฟีเจอร์แอบเก็บในกระปุก Fun ของแอป Kept ที่จะช่วยให้คุณช้อปไป เก็บไป เช่น ซื้อกระเป๋า 4,000 บาท ตั้งให้ระบบแอบเก็บหยอดกระปุก Fun เลย 4,000 บาท (ตั้งแบบ % = 100%)

          3. ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจทำ F.I.R.E.
“ความอดทนเพื่อความสุขในวันข้างหน้า” เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยทำให้สูตรการออมเงินอย่าง Financial Independence, Retire Early สร้างอิสรภาพทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจใช้เทคนิคการออมเงินอย่าง F.I.R.E. นี้ นักสู้งานหนักเพื่อรอวันเกษียณทุกคนยังต้องพิจารณาความเสี่ยงที่มาพร้อมกับ F.I.R.E. คือ

          ความเสี่ยงที่มาพร้อมกับความไม่แน่นอน
จริงอยู่ว่า การทำ F.I.R.E. เป็นการตัดทุกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับ “ตัวเรา” ออกทั้งหมดเพื่อทำให้มีเงินเก็บและนำไปลงทุนภายหลัง แต่อย่างไรก็ดี ในหลาย ๆ ครั้งชีวิตก็มาพร้อมกับรายจ่ายที่ไม่ได้ตั้งใจอย่างค่ารักษาพยาบาล รวมไปถึงการเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้น ผู้ที่ทำ F.I.R.E. จะต้องวางแผนรองรับความเสี่ยงในชีวิตที่อาจเกิดขึ้นด้วย

          ความเสี่ยงของเงินเก็บและการลงทุน
การเก็บเงินในธนาคารมาพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อย ๆ จากหลายปัจจัย ทำให้หลายครั้งการเก็บเงินเพียงอย่างเดียวจึงไม่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ต้องการได้ อย่างไรก็ดี การนำเงินไปลงทุนต่อยอดก็มาพร้อมกับความเสี่ยงเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าจะเป็นการทำ Lean หรือ Fat F.I.R.E. ก็ควรพิจารณาความเสี่ยงให้รอบด้านด้วย

          ความ “ไหว” ของตัวเราเอง
F.I.R.E. เป็นเทคนิคการเก็บเงินที่มีพื้นฐานแบบ “อดเปรี้ยวไว้กินหวาน” ซึ่งถึงปลายทางจะดูดีต่อใจและชีวิตมากแค่ไหน แต่ในระหว่างทางก็ต้องแลกมากับการอดทนรอ การมีวินัยทางการเงิน ตลอดจนการหาเวลาในการศึกษาหาความรู้เพื่อต่อยอดเงินอย่างถูกต้องและเห็นผลลัพธ์เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ทำ F.I.R.E. หลาย ๆ คนจึงอาจรู้สึกกดดันและมีความเครียดสะสมได้ง่าย ซึ่งหากใครตัดสินใจจะเดินทางสายนี้แล้ว อย่าลืมประเมิน “ความไหว” ของตัวเองให้ดี

          หากใครอ่านมาถึงจุดนี้แล้วรู้สึกว่าเทคนิคการออมเงินแบบ F.I.R.E. นั้นเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์และสามารถบริหารจัดการให้ลงตัวได้ อย่าลืมนำสูตรการออมเงินนี้ไปปรับใช้ให้เข้ากับเงื่อนไขในแต่ละช่วงของชีวิตเพื่อสร้างอิสรภาพทางการเงินในแบบที่ต้องการ และเพื่อช่วยให้ทุกคนได้บรรลุเป้าหมายการทำ F.I.R.E. ได้สะดวกยิ่งขึ้น Kept by krungsri ตัวช่วยบริหารเงินของคนยุคใหม่ มาพร้อมกับ 1 กระเป๋า และ 3 กระปุก ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การออม สายใจแข็ง สายชอบช้อป สายกระจายหลายๆ บัญชี ก็ครบ จบ ได้ในแอป Kept พร้อมช่วยให้เงินเก็บของทุกคนงอกเงยด้วยอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 2% ต่อปี* (มีผลตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป) ที่จะช่วยให้การทำ F.I.R.E. เกิดความลงตัวกับชีวิตได้มากขึ้น
 
*ดอกเบี้ยและเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด