เทคนิคการออม

Banner image alt

ปีใหม่ กับไอเดีย New Year’s Resolutions 2025 ที่ทำง่ายได้จริง

เทคนิคเก็บเงินได้
21/1/2025
Share

Highlight

       ก้าวสู่ปีใหม่ ถือเป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุดในการตั้งเป้าหมายใหม่ ๆ ให้ตัวเอง หลายครั้งเราอาจจะตั้งเป้าหมายที่ใหญ่เกินไปจนไม่สามารถทำได้จริง แต่ถ้าเลือกเป้าหมายที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ ของเราเองโดยมีเป้าหมายที่จะช่วยพัฒนาทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ก็จะช่วยให้สำเร็จได้ง่ายขึ้น นี่คือ 8 ข้อของ New Year’s Resolutions ที่สามารถทำง่ายได้จริง

     OG-Image.jpg

ปีใหม่ กับไอเดีย New Year’s Resolutions 2025 ที่ทำง่ายได้จริง

       1. ออกกำลังกายให้เป็นนิสัย

        ไม่จำเป็นต้องไปยิมทุกวัน เพียงแบ่งเวลาให้การออกกำลังกายอาจจะเริ่มต้นด้วยการเดินวันละ 20 นาทีหรือออกกำลังกายที่บ้านผ่านวิดีโอออนไลน์ เพียงทำอย่างต่อเนื่องก็เพียงพอที่จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีต่อสุขภาพที่ดีต่อร่างกายเรา 
 

       2. ลดเวลาหน้าจอ เพิ่มเวลาพักผ่อน

       ในยุคที่เราติดสมาร์ทโฟน ลองตั้งเป้าหมายลดการใช้โซเชียลมีเดีย เช่น จำกัดเวลาใช้งานแอปต่าง ๆ และหันมาใช้เวลาพัฒนาตัวเองหรือพักผ่อนให้เพียงพอแทน
 

       3. อ่านหนังสือมากขึ้น

       ตั้งเป้าหมายง่าย ๆ เช่น อ่านหนังสือเดือนละ 1 เล่ม หรือเลือกบทความสั้น ๆ ในหัวข้อที่สนใจ ซึ่งสามารถเพิ่มพูนความรู้และช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย
 

      4. ปรับพฤติกรรมการกินให้ดีขึ้น

       การปรับพฤติกรรมการกินให้ดีขึ้นในยุคปัจจุบันนั้นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่ายขึ้นด้วยการเข้าถึงจากสื่อต่างๆ บนโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินของเราอย่างมาก ผ่านการเห็นเทรนด์ต่างๆ บน Instagram, Tiktok, YouTube หรือ Lemon8 ที่มีการแนะนำอาหารใหม่ๆ วิธีการกินเพื่อสุขภาพ หรือเทคนิคการทำ  อาหารที่หลากหลาย เทรนด์เหล่านี้ช่วยกระตุ้นให้เราตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และสามารถนำไปสู่การทดลองอาหารหรือวิธีการกินใหม่ๆ เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีขึ้น เช่น การลดของหวาน น้ำอัดลม หรือฟาสต์ฟู้ด และการเพิ่มผักผลไม้ในแต่ละมื้อ หรือแม้แต่การลองทำอาหารทานเองที่บ้านให้มากขึ้น ทดแทนการสั่งอาหารในแอปเดลิเวอรี่ต่างๆ
 

      5. เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ

       ในยุคดิจิทัล การเรียนรู้ไม่เคยง่ายขนาดนี้ ลองลงคอร์สออนไลน์ในหัวข้อที่สนใจ เช่น การตลาดดิจิทัล การเขียนโปรแกรม หรือทักษะด้านศิลปะ ก็สามารถทำให้เราค้นพบทักษะใหม่ๆ ของตัวเองก็เป็นได้
 

      6. รักษาความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง

       หาเวลาพูดคุยกับครอบครัวหรือเพื่อนมากขึ้น เช่น นัดทานข้าวด้วยกัน แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน หรือส่งข้อความทักทาย เพื่อสานสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างมากขึ้น
 

      7. สร้างสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว

       ตั้งเป้าหมายแบ่งเวลาสำหรับงานและการพักผ่อนให้สมดุล เช่น เลิกงานตรงเวลา หรือจัดเวลาสำหรับกิจกรรมที่ทำให้ผ่อนคลายอย่างแน่นอน
 

       8. บริหารจัดการเงินด้วยเทคนิคการออมเงินให้มีระบบอย่างมีเป้าหมายที่ชัดเจน

      จัดการเงินด้วยสูตรบริหารเงิน 50-30-20 แบ่งสัดส่วนรายได้ตามหมวดหมู่ที่วางแผนเอาไว้เพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อการใช้จ่ายในแต่ละเดือนโดยการจัดการเงินแบ่งออกเป็น 3 ส่วน

 ส่วนที่ 1 :50% เพื่อค่าใช้จ่ายที่จำเป็น คือค่าใช้จ่ายพื่อความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตที่คุณต้องจ่ายทุกเดือน เช่น ค่ากิน, ผ่อนรถ, ผ่อนคอนโดมิเนียม ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าสาธาณูปโภค รวมถึงให้พ่อแม่ เป็นต้น

 ส่วนที่ 2 :30% ใช้เพื่อซื้อความสุขให้กับตัวเอง เช่นค่าช้อปปิ้ง ค่าสังสรรค์ หรือค่าท่องเที่ยวในสถานที่ที่อยากไป เพื่อให้ความสุขแก่ตนเอง 

​​​​​ ส่วนที่ 3 :20% กั้น ไว้เพื่อการออมหรือเพื่อการลงทุน เช่น ไว้เป็นเงินสำรองฉุกเฉิก เงินฉุกเฉินที่มีเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่าย 3-6 เดือน หรือจะลงทุนเพื่อต่อยอดเงินออม เช่น ลงทุนในกองทุนรวม หุ้น หรือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เพื่อให้เงินงอกเงย หรือฝากไว้กับบัญชีออมทรัพย์ที่ได้ดอกเบี้ยสูงก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่มีความเสี่ยง 

  • ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น: ตัดรายจ่ายที่ไม่คุ้มค่า เช่น ค่าสมาชิกแอปต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้งาน ค่าอาหารนอกบ้าน หรือค่ากาแฟที่มีราคาสูง หรือชานมไข่มุก โดยการอาจจะตั้งกฎให้ตัวเองเช่น กิน 2 สัปดาห์ 1 ครั้ง แทนการกินทุกสัปดาห์
  • บริหารหนี้ให้มีประสิทธิภาพ: ชำระหนี้สินให้ตรงเวลา ลดดอกเบี้ย และหลีกเลี่ยงการก่อหนี้เพิ่ม ลดการซื้อของที่ไม่เป็นจำเป็นเป็นต้น
  • วางแผนภาษีล่วงหน้า: ศึกษาวิธีลดหย่อนภาษี เช่น การลงทุนใน RMF, ThaiESG 
  • วางแผนเกษียณ: เริ่มต้นออมเงินระยะยาวสำหรับวัยเกษียณ เพื่อให้มีความมั่นคงในอนาคต
 
       การบริหารจัดการเงินเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางการเงินในอนาคต โดยต้องตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและมีระบบจะสามารถช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้  ซึ่งการบริหารจัดการเงินจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีกถ้าเรามีตัวช่วยดีๆ อย่าง แอป Kept by krungsri แอปบริหารเงินที่ให้คุณเก็บออมเงินและลงทุนเป็นเรื่องง่ายในแอปเดียวมีทั้งหมด 5 บัญชี แบ่งเป็น 1 กระเป๋า 4 กระปุก 
  • กระเป๋า Kept บัญชีหลักไว้ใช้จ่าย โอนเข้า-ออก
  • กระปุก Grow บัญชีเก็บเงินก้อน รับดอกเบี้ยสูงสุด 2% ต่อปี*
  • กระปุก Fun บัญชีช่วยเก็บเงินให้อัตโนมัติด้วยฟีเจอร์แอบเก็บและสั่งเก็บ 
  • กระปุก Together บัญชีแบ่งเงินเก็บตามเป้าหมาย
  • กระปุกลงทุน Kept Invest ลงทุนกองทุนรวม เพิ่มโอกาสต่อยอดเงินออมให้เติบโตมากขึ้น 
       *อัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขเป็นไปตามประกาศธนาคารกรุงศรีอยุธยา 

      

ขาย-Kept_-(1).jpg