เทคนิคการออม

Banner image alt

รวม 4 ทริคประหยัดเงินสไตล์คนรุ่นใหม่ อุ่นใจได้แค่ประกันความเสี่ยง

เทคนิคเก็บเงินได้
17/6/2022
Share

Highlight

พอโตขึ้น ชีวิตกลับยิ่งไม่แน่นอนเอาเสียเลย? คนรุ่นใหม่ต้องเตรียมตัวอย่างไร ให้พร้อมรับมือกับทุกเรื่องมาดู 4 ทริคประหยัดเงินด้วยการประกันความเสี่ยงสไตล์ Gen Kept กันเลยดีกว่า

ทริคประหยัดที่ 1 : แคนเซิลทริปไม่เสียศูนย์ด้วยประกันท่องเที่ยว 
ทริคประหยัดที่ 2 : ประกันรถยนต์ขับน้อยจ่ายน้อย แต่คุ้มครองจัดเต็ม
ทริคประหยัดที่ 3 : ประกันความเสี่ยงให้สัตว์เลี้ยงที่รัก
ทริคประหยัดที่ 4 : จ่ายประกันแล้วต้องได้ลดหย่อนภาษี

รวม 4 ทริคประหยัดเงินสไตล์คนรุ่นใหม่ อุ่นใจได้แค่ประกันความเสี่ยง
 

        รู้สึกกันบ้างหรือเปล่าว่า พอโตขึ้น ชีวิตกลับยิ่งไม่แน่นอนเอาเสียเลย? วันดีคืนดีเราหรือคนในครอบครัวอาจจะเจ็บป่วยจนต้องใช้เงิน แถมสถานการณ์โควิดยังขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่แบบนี้ ไม่ว่าเราจะวางแผนชีวิตไว้ดิบดีแค่ไหนก็อาจต้องเปลี่ยนแผนเพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
ทุกครั้งที่ชีวิตไม่เป็นไปตามที่วาดหวังเอาไว้ เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้อง “จ่าย” ให้กับความเสียหายและความไม่แน่นอนเหล่านั้น ถ้าเป็นตอนเด็ก ๆ ก็คงไม่รู้สึกอะไร แต่พอโตขึ้น เริ่มมีภาระและต้องรับผิดชอบตัวเองมากขึ้น เวลาเห็นยอดค่าใช้จ่ายฉุกเฉินแบบนี้หลายคนถึงกับท้อไปเลย แล้วคนรุ่นใหม่ที่กำลังสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต จะต้องเตรียมตัวอย่างไร ให้พร้อมรับมือกับทุกเรื่องได้อย่างสบายกระเป๋า? เรามาดู 4 ทริคประหยัดเงินด้วยการประกันความเสี่ยงสไตล์ Gen Kept กันเลยดีกว่า

Risk-management.jpg

ทริคประหยัดที่ 1 : แคนเซิลทริปไม่เสียศูนย์ด้วยประกันท่องเที่ยว   

          หลังจากไม่ได้เที่ยวมานาน พอสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ทุกคนก็ตื่นเต้นสุด ๆ เพราะจะได้ไปเที่ยวสมใจ ทั้งจ่ายค่าจองรถและค่าโรงแรมเสร็จสรรพ แต่พอไม่กี่วันก่อนออกทริป อยู่ ๆ ทริปล่มและต้องเลื่อนไปก่อน แต่จะแคนเซิลพร้อมขอเงินคืนเต็มจำนวนก็ไม่ทันแล้ว หรือหากเลื่อนวันก็อาจเสียค่าธรรมเนียม เรียกได้ว่าเสียศูนย์สุด ๆ เพราะทั้งเสียเงินและอดได้เที่ยวไปอีก

           ยุคโควิดแบบนี้อีกหนึ่งทางเลือกเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอน คือการทำประกันท่องเที่ยวหรือประกันการเดินทางที่คุ้มครองการยกเลิกการเดินทางจากเหตุสุดวิสัย เช่น เจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ ซึ่งแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าไม่ควรเดินทาง หรือในกรณีที่พ่อแม่เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บสาหัส ประกันบางแผนก็คุ้มครองเช่นกัน โดยประกันชนิดนี้มีเบี้ยเริ่มต้นเพียงหลักร้อย แต่ให้ความคุ้มครองตามจริงหรือตามวงเงินของแผนประกันที่คุณเลือกไว้จึงเหมือนการใช้เงินก้อนเล็กเพื่อช่วยให้ประหยัดเงินก้อนใหญ่ได้นั่นเอง
 

ทริคประหยัดที่ 2 : ประกันรถยนต์ขับน้อยจ่ายน้อย แต่คุ้มครองจัดเต็ม

          ช่วงที่ผ่านมาเรา work from home กันตั้งนาน แถมในอนาคตหลายบริษัทมีแนวโน้มจะให้ทำงานแบบไฮบริด เข้าออฟฟิศเพียงไม่กี่วัน ในขณะที่บางบริษัทผันตัวไปทำงานจากที่บ้านกัน 100% เพื่อลดค่าใช้จ่าย คนมีรถจึงแอบเสียดายค่าเบี้ยประกันชั้น 1 ที่จ่ายไปทั้ง ๆ ที่ไม่ค่อยได้ขับรถออกจากบ้านบ่อยเหมือนเดิม แต่พอคิดว่าจะเปลี่ยนไปใช้ประกันชั้น 2 หรือ 3 ก็รู้สึกไม่อุ่นใจ เพราะไม่มีใครคาดการณ์อุบัติเหตุล่วงหน้าได้ แถมหากถอยไปชนรถ ชนเสา หรือชนรั้วก็ใช้ประกันชั้น 2 และ 3 เคลมไม่ได้ด้วย
                เคล็ดลับประหยัดค่าเบี้ยประกันแถมยังได้ประกันความเสี่ยงแบบจัดเต็มเหมือนเดิม อยู่ที่การเลือกแผนประกันภัยที่ใช่ ซึ่งนาทีนี้คงหนีไม่พ้น “TIP Up to mile” ประกันภัยชั้น 1 สำหรับคนใช้รถน้อย ที่รับประกันโดยบริษัททิพยประกันภัย ที่ขับแค่ไหนก็จ่ายแค่นั้น
  • ความคุ้มครองจัดเต็มตามมาตรฐานประกันชั้น 1 ซ่อมทั้งรถคุณและรถคู่กรณี ครอบคลุมอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี
  • จ่ายเบี้ยตามจำนวนไมล์ ไมล์หมดก็เติมได้ใหม่
  • เบี้ยเริ่มต้นเพียง 4,900 บาทต่อปี
  • รับฟรี! Central Gift Voucher สูงสุด 500 บาท* เพียงซื้อประกันชั้น 1 TIP Up To Mile ผ่านการประชาสัมพันธ์บนเว็บไซต์ของ Kept by krungsri โดยกด “สนใจสมัคร” ที่ลิงก์นี้


ทริคประหยัดที่ 3 : ประกันความเสี่ยงให้สัตว์เลี้ยงที่รัก

          หลายปีที่ผ่านมาคนไทยนิยมเลี้ยงสัตว์กันมากขึ้น อาจจะด้วยสาเหตุเรื่องโครงสร้างทางสังคม สภาวะเศรษฐกิจ หรือต้องการโฟกัสที่การทำงานและการใช้ชีวิตของตัวเองให้เต็มที่เสียก่อน ทำให้หลายคนเลือกทุ่มเทความรักให้กับน้องหมาน้องแมว และดูแลพวกเขาเสมือนเป็นสมาชิกในครอบครัว แต่อย่างไรก็ตาม หากสัตว์เลี้ยงเจ็บป่วยก็ต้องใช้เงินมากไม่ต่างจากคนเลย คิดดูง่าย ๆ หากเราเจ็บป่วย ยังมีประกันสุขภาพ ประกันสังคม หรือสวัสดิการต่าง ๆ ช่วยแบ่งเบาภาระ แต่กับน้องหมาน้องแมวที่ไม่ได้มีสวัสดิการใด ๆ แล้วค่าใช้จ่ายในเรื่องการรักษาพยาบาลจะเป็นอย่างไร? การผ่าตัดหรือรักษาโรคแต่ละครั้งมีราคาหลักพันบาท ไหนจะค่าใช้จ่ายวัคซีนประจำปีสำหรับโรคที่จำเป็น เช่น โรคไข้หัดสุนัขและแมว โรคพิษสุนัขบ้า โรคลำไส้อักเสบ โรคหลอดลมอักเสบ และโรคอื่น ๆ เข็มหนึ่งเริ่มต้นสองร้อยกว่าบาท รวมแล้วปีหนึ่งฉีดกันประมาณ 3 - 5 โรค และต้องฉีดเข็มกระตุ้นทุกปี นับว่าเป็นรายจ่ายที่หนักทีเดียว
          แต่คุณสามารถประหยัดค่ารักษาพยาบาลและค่าวัคซีนที่สูงลิบเหล่านี้ได้ด้วยการทำประกันสัตว์เลี้ยง ที่จะช่วยคุ้มครองและแบ่งเบาให้คุณหมดห่วงไปได้
                “TIP Pet Lover” เคล็ดลับเซฟค่าใช้จ่ายสำหรับเจ้าของสุนัขและทาสแมวโดยเฉพาะ จ่ายเบี้ยเริ่มต้นเพียงปีละ 500 บาทก็สามารถคุ้มครองสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณได้อย่างมั่นใจ ช่วยประหยัดรายจ่ายหนัก ๆ ไปได้เยอะ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ ค่าคุ้มครองชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอกกรณีที่น้องเล่นซนเกินไป และค่าใช้จ่ายจัดพิธีศพสัตว์เลี้ยง โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพและฝังไมโครชิพสัตว์เลี้ยง
                นอกจากนี้ยังสามารถเลือกซื้อแผนประกันที่มีความคุ้มครองเพิ่มขึ้น เช่น ค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วย ค่าวัคซีน ค่าประกาศติดตามกรณีน้องหมาน้องแมวหาย เงินช่วยค่าฝากเลี้ยงกรณีไปต่างประเทศ และอื่น ๆ อีกมากมาย รับฟรี! Central Gift Voucher สูงสุด 200 บาท* เพียงซื้อประกันสัตว์เลี้ยง TIP Pet Lover ผ่านการประชาสัมพันธ์บนเว็บไซต์ของ Kept by krungsri โดยกด “สนใจสมัคร” ที่ลิงก์นี้
 
ทริคประหยัดที่ 4 : จ่ายประกันแล้วต้องได้ลดหย่อนภาษี
          ในแต่ละปีเราต้องเสียภาษีในจำนวนไม่น้อย ยิ่งใครที่เงินเดือนเริ่มสูงก็จะต้องเสียในอัตราขั้นบันได แต่รู้ไหมว่าคุณสามารถบริหารภาษีด้วยการซื้อประกันชีวิตและประกันสุขภาพ นอกจากจะได้ประกันความเสี่ยงอย่างอุ่นใจ ว่าหากเป็นอะไรไปคนข้างหลังจะไม่ลำบากแล้ว ยังนำไปลดหย่อนภาษีเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินของตัวเองได้ตามเงื่อนไขต่อไปนี้
  1. ประกันชีวิตทั่วไปที่ทำให้ตัวเองและเงินฝากแบบมีประกันชีวิต ลดหย่อนได้ตามจริงไม่เกิน 100,000 บาท
  2. ประกันสุขภาพตนเอง ลดหย่อนได้ตามจริงไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อรวมกับข้อ 1. แล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท
  3. ประกันชีวิตแบบบำนาญ ลดหย่อนได้ตามจริงแต่ต้องไม่เกิน 15% ของเงินได้ที่ต้องเสียภาษี และไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี
  4. ประกันสุขภาพพ่อแม่ นำมาลดหย่อนได้ตามจริง รวมสูงสุดปีละ 15,000 บาท ส่วนคู่สมรสที่ไม่มีเงินได้ นำค่าเบี้ยมาลดหย่อนได้ตามจริงไม่เกินปีละ 10,000 บาท
                “ประกัน” คือหนึ่งในวิธีบริหารความเสี่ยงด้วยการโอนความเสี่ยงนั้นไปให้บริษัทประกัน หลายคนอาจคิดว่าเราจะจ่ายเบี้ยไปทำไมในเมื่อไม่มีใครอยากป่วย เจ็บตัว หรือเกิดเรื่องฉุกเฉินจนต้องเคลม แต่ขึ้นชื่อว่า “ความเสี่ยง” แล้วย่อมไม่มีวันรู้หรอกว่าวันไหนจะเกิดอะไรขึ้น ยิ่งเรื่องบางเรื่องไม่สามารถกดแคนเซิลได้ฟรี ๆ การประกันความเสี่ยงเอาไว้จึงเหมือนการใช้เงินก้อนเล็กปกป้องเงินก้อนใหญ่แถมประกันบางประเภทยังนำมาลดหย่อนภาษีได้ ช่วยให้คุณประหยัดเงินและอุ่นใจได้ครบในคราวเดียว
            Kept by krungsri ชวนคุณมาแบ่งเงินออมสำหรับทำประกันโดยแยกเป็นสัดส่วนด้วยกระปุกน้องใหม่ที่ใคร ๆ ก็ลงความเห็นว่าเวิร์กจริงอย่าง กระปุก Together ที่สามารถแบ่งกระปุก แยกเก็บเงินออมตามเป้าหมายได้ แถมยังได้ดอกเบี้ย 0.5% ต่อปี** คิดดอกเบี้ยทุกวัน จ่ายดอกเบี้ยให้ทุกเดือน ตอบโจทย์การออมเงินสไตล์คนรุ่นใหม่ให้บรรลุเป้าหมายได้ไวและเก็บเงินได้สนุกยิ่งขึ้น เพราะ “ปรับนิด ชีวิตเปลี่ยน” แถมใช้ชีวิตได้อย่างคุ้มค่าสุด ๆ อีกด้วย

*เงื่อนไขโปรโมชันเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด
**ดอกเบี้ยและเงื่อนไขเป็นไปตามประกาศของธนาคาร