วิกฤติไหนก็ไม่หวั่น! แค่รู้จักตั้งเป้าหมายการออมเงิน 3 ระยะ

            ขนาดไปเที่ยวยังต้องมีจุดหมาย เพื่อให้ตัวเองและเพื่อนร่วมทริปรู้ว่าจะเตรียมตัวอย่างไรให้เดินทางไปถึงที่นั่นได้ตามกำหนด ไม่เช่นนั้นก็เหมือนการเดินทางแบบไม่รู้ทิศ ไม่มีกำหนดเวลาที่แน่นอน และอาจต้องเผชิญกับความตื่นเต้นเพราะไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร แต่สำหรับการออมเงินแล้ว เราอาจไม่มี “โควตาความตื่นเต้น” ให้ใช้มากนัก เพราะมันหมายถึงความมั่นคงในชีวิต ยิ่งในปัจจุบันที่เราทุกคนกำลังเผชิญหน้ากับโควิด-19 ยิ่งต้องจัดการเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ดังนั้นจึงต้องมีเป้าหมายของการออมเอาไว้เป็นเหมือนเส้นชัย จะได้รู้ว่าเราเก็บเงินขนาดนี้ไปเพื่ออะไรกันแน่ แล้วลงมือวางแผนทั้งการใช้เงิน วิธีการออมเงิน และระยะเวลาในการออมเงินให้สอดคล้องกันด้วย ถ้าพร้อมแล้วก็อย่ารอช้า ไปทำความรู้จักกับเป้าหมายทางการเงินและแนวทางในการออมที่ Kept by krungsri นำมาเป็นตัวอย่างกันเลย

1. เป้าหมายของการออมมีไว้ทำไม?

            อย่างที่เราได้เกริ่นกันไป เป้าหมายของการออมมีไว้เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนว่าตอนนี้ตัวเรากำลังทำอะไรอยู่ บริหารการเงินแบบนี้แล้วจะได้ผลลัพธ์แบบไหนกลับมา การตั้งเป้าหมายการเงินที่ชัดเจนจะช่วยให้วางแผนได้ง่ายขึ้นว่าจะต้องใช้ตัวช่วยอะไรในการเก็บเงินเพื่อไปให้ถึงสิ่งที่ต้องการนั้น และในขณะเดียวกันก็ช่วยให้เรามีกำลังใจและช่วยลดความอยากได้อยากมีลง หากท้อหรืออยากใช้เงินเก็บเมื่อไหร่ก็แค่นึกถึงเป้าหมาย ก็จะมีแรงฮึดสู้ลุกขึ้นมาออมเงินหรือจัดการกับกิเลสนั้นด้วยวิธีการที่เหมาะสม นอกจากนี้ ในช่วงโควิด-19 ที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวกลับมาดี การมีเป้าหมายที่แน่นอนจะช่วยให้เราไม่ท้อถอยจากสภาพการณ์ที่เป็นอยู่ และรู้สึกว่ามีความหวังมากขึ้นอีกด้วย   

สรุปประโยชน์ของการตั้งเป้าหมายในการออมเงิน

• ง่ายต่อการวางแผนเก็บเงินและลงทุน เช่น รู้ว่าต้องเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่เป็นเวลากี่เดือนถึงจะไปถึงเป้าหมาย
• เห็นภาพชัดขึ้นว่าเรากำลังเก็บเงินไปเพื่ออนาคตและความสุขของตัวเอง
• รู้สึกมีกำลังใจและความมุ่งมั่นในการเก็บเงิน
• ช่วยระงับกิเลสและความฟุ่มเฟือย

2. กำหนดเป้าหมายระยะสั้น ในปีนี้คุณจะผ่านวิกฤติด้วยวิธีไหนดี? 

            วิธีเริ่มต้นออมเงินที่ดีที่สุดอันดับแรกคือต้องรู้จักกำหนดเป้าหมายในระยะต่าง ๆ ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับเวลาในการทำเป้าหมายนั้นให้สำเร็จ สำหรับเป้าหมายระยะสั้นนั้นเป็นสิ่งที่คุณต้องการทำให้เกิดขึ้นจริงภายในเวลา 1 ปี จึงมักเป็นแพลนง่าย ๆ ใช้เงินไม่มาก และช่วยตอบสนองความสุขหรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ อย่างเช่น ในช่วงโควิดแบบนี้ เป้าหมายของการออมอาจเป็นการเก็บเงินเอาไว้เพื่อใช้ซื้ออุปกรณ์ป้องกันตัวเองจากเชื้อโรค ซื้อประกันโควิด ซื้ออุปกรณ์หรือเฟอร์นิเจอร์ประกอบการทำงานในช่วงที่ต้อง Work From Home เพื่อให้ผ่านช่วงเวลาวิกฤติไปได้แบบไม่หนักหนามาก เป็นต้น นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการเก็บเงินเผื่อรายจ่ายฉุกเฉิน และการซื้อความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ตัวเอง เช่น การซื้อของที่อยากได้ ชิมเมนูที่อยากลองมานาน หรือเรียนพิเศษเพิ่มสกิลให้ตัวเอง      
     วิธีการออมเงินที่เหมาะสมกับเป้าหมายระยะสั้นเพื่อเป็นการเริ่มต้นจะเป็นการออมแบบที่ไม่มีเงื่อนไขผูกมัดระยะยาวและสามารถนำเงินออกมาใช้ทำตามเป้าหมายได้ เช่น กระปุก Together ในแอปพลิเคชัน Kept ของธนาคารกรุงศรี ที่ช่วยให้เก็บตามเป้าหมายง่ายแยกเงินเป็นสัดส่วน ตั้งเป้าหมายได้ว่าอยากเก็บเท่าไหร่ เก็บเพื่ออะไร พร้อมชวนเพื่อน หรือคนที่เรารักมาดูกระปุกและเก็บเงินด้วยกันได้ ข้อดีก็คือ เมื่อเรามีเป้าหมายเดียวกัน ทำด้วยกันก็จะถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น มีกำลังใจมากขึ้น หรือแม้แต่การเห็นจำนวนเงินที่ใกล้ถึงเป้าหมายมากขึ้นก็จะช่วยให้เรามุ่งมั่นไปให้ถึงให้ได้ เมื่อทำเป้าหมายเล็กได้สำเร็จ เป้าหมายใหญ่ก็จะเป็นไปได้เช่นกัน

3. เป้าหมายระยะกลาง ทำอนาคตอันใกล้ให้เป็นจริง

      เป้าหมายระยะกลางก็เหมือนตัวกำหนดเงินออมอีกก้อนที่เราต้องแบ่งสัดส่วนเอาไว้ โดยเป้าหมายในระยะนี้เป็นสิ่งที่เราต้องการทำให้สำเร็จในช่วง 1-5 ปี เช่น อยากเรียนต่อปริญญาโทในอีก 2 ปีข้างหน้า, เมื่อสถานการณ์โควิดดีขึ้นแล้วอยากพาพ่อแม่ไปเที่ยวต่างประเทศ, ทำงานอีก 3 ปีแล้วตั้งใจจะซื้อรถสักคัน, เก็บเงินแต่งงานสร้างครอบครัวกับคนรัก ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องการทำในอนาคตอันใกล้และต้องใช้เงินก้อนใหญ่
            ในเมื่อเป็นเป้าหมายที่ต้องการทำในอีก 1-5 ปีข้างหน้า หมายความว่า เราไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนดังกล่าวในช่วงนี้ จึงสามารถใช้วิธีการออมเงินหรือลงทุนด้วยวิธีการอื่นนอกเหนือจากเงินฝากออมทรัพย์ได้ ซึ่งปัจจุบันก็มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้เลือกมากมายตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น ใครไม่ชอบความเสี่ยงสามารถเปิดบัญชีฝากประจำปลอดภาษีแบบ 24 หรือ 36 เดือนเพื่อออมอย่างสม่ำเสมอ หรือเก็บเงินก้อนในแอปพลิเคชัน Kept ที่ กระปุก Grow   เพื่อรับดอกเบี้ยสูงสุด 1.70% ต่อปี*  (มีผลตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป) คิดดอกเบี้ยให้ทุกวันและจ่ายให้ทุกวันที่ 28 ของเดือน จำเป็นต้องใช้เงินเก็บจริงๆ ก็ถอนได้ ไม่มีเงื่อนไข และไม่เสียสิทธิรับดอกเบี้ยสูงด้วย และสำหรับใครรับความเสี่ยงไหวและคาดหวังผลตอบแทนที่เติบโตมากขึ้นก็อาจมองหากองทุนรวมหุ้น กองทุนรวมผสม หรือลงทุนในหุ้นดี ๆ สักตัวเพื่อเก็งกำไรระยะยาวหรือรอรับเงินปันผลได้ โดยแนะนำให้เลือกตัวที่มั่นใจ และคุณต้องมีกลยุทธ์ในการลงทุนที่ดี จะได้ไม่เสียเงินต้นและมีเงินสำหรับไปทำตามเป้าหมายเมื่อถึงเวลา

4. เป้าหมายระยะยาวก็พลาดไม่ได้ เพื่อความมั่นคงในบั้นปลายชีวิต

          แม้ว่าชีวิตจะยุ่งและต้องสู้อีกแค่ไหนในช่วงโควิด แต่ทุกคนก็ห้ามละเลยแผนการเงินระยะยาวเด็ดขาด เป้าหมายของการออมระยะยาวนั้นเป็นสิ่งที่จะช่วยการันตีความมั่นคงในชีวิต และต้องใช้เวลานานเกินกว่า 5 ปีถึงจะทำสำเร็จ มีตั้งแต่การซื้อบ้าน ซื้อคอนโด ส่งลูกเรียนจนจบปริญญา ไปจนถึงการออมเงินไว้ใช้หลังเกษียณเลยทีเดียว
            วิธีการออมเงินเพื่อเป้าหมายระยะยาวนั้น แม้จะมีเวลาให้ลองผิดลองถูกอีกหลายปีกว่าจะใช้เงินก้อนนี้ แต่อย่าลืมว่า มันเป็นเงินก้อนใหญ่ที่สำคัญต่อชีวิตและอาจรวมถึงคนข้างหลัง ดังนั้น การแบ่งเงินหลาย ๆ ส่วนไปเก็บออมหรือลงทุนในระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกันเพื่อกระจายความเสี่ยง เช่น นอกจากจะลงทุนในเงินฝาก หุ้น รวมไปถึงทองคำและอสังหาริมทรัพย์ได้แล้ว ยังมีกองทุนรวม RMF และ SSF ที่เน้นการออมระยะยาวเพื่อให้มีเงินใช้หลังเกษียณ อีกทั้งยังมีประกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการออมเงินที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการสูญเงินเก็บได้เช่นกัน เช่น ประกันชีวิตหรือประกันสะสมทรัพย์อาจมีความคุ้มครองเพิ่มเติมเรื่องค่ารักษาพยาบาลและได้รับเงินคืนเมื่อครบกำหนดอายุสัญญา

            เมื่อวางแผนได้แล้ว ก็สามารถมาคำนวณว่า เป้าหมายแต่ละอย่างต้องใช้เงินเท่าไหร่ และเราจะเก็บเงินเดือนละเท่าไหร่เป็นเวลากี่เดือนจึงจะสำเร็จ แล้วลงมือเริ่มต้นได้เลย

5. ออมเท่าไหร่ให้เหมาะกับเป้าหมายทั้ง 3 ระยะ

          จาก สูตรเก็บเงินฉบับมนุษย์เงินเดือน ในบทความก่อนหน้านี้ เราได้รู้กันไปแล้วถึงสัดส่วนการเก็บเงินแบบ 50-30-20 โดยอย่างน้อย 20% ของเงินเดือนนั้นจะกลายมาเป็นเงินออมเพื่อเป้าหมายในระยะต่าง ๆ ที่เราตั้งไว้นั้นเอง แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่า แล้วเรามีเป้าหมายตั้งหลายข้อ การออมเงินแบบไหนถึงจะทำให้เราไปถึงเป้าหมายเหล่านั้นได้ครบล่ะ?
            เริ่มจากจัดลำดับความสำคัญของเป้าหมายในการออมเงิน เพื่อจะได้โฟกัสว่าจะกันเงินไว้สำหรับเป้าหมายข้อไหนก่อน เช่น

• เงินสำรองฉุกเฉินที่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่าย 3-6 เดือนเป็นสิ่งจำเป็นมาก ๆ เพื่อที่เราจะได้รับมือกับเรื่องไม่คาดฝันได้ ดังนั้น ควรเริ่มเก็บเงินก้อนนี้ก่อน
• หากมีเงินเหลือจากการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน คุณมีทางเลือก 2 ทาง คือ 1) นำไปใช้กับเป้าหมายในระยะสั้น เพื่อให้เป้าหมายเป็นจริงเร็วขึ้น และมีเวลาเก็บเงินสำหรับเป้าหมายอื่น ๆ หรือ 2) หากใครมั่นใจว่าวางแผนการออมเงินไว้ดีแล้ว ก็นำเงินที่ยังเหลือส่วนนี้ไปใส่ในกองสำหรับเป้าหมายระยะกลางหรือระยะยาว เพื่อเพิ่มความมั่นคงให้กับตัวเองก็ได้
• ให้ความสำคัญกับเป้าหมายในระยะกลางและระยะยาวไปพร้อม ๆ กัน โดยหลังจากแบ่งเงินสำหรับทำตามความต้องการในระยะสั้นแล้ว จึงเก็บเงินอีกส่วนแยกไว้ต่างหากสำหรับเป้าหมายที่สำคัญต่อชีวิตและอนาคต แต่ยังไม่ต้องรีบใช้เงินในเร็ว ๆ นี้

            ชีวิตก็เหมือนกับการเดินทาง และการตั้งเป้าหมายในการออมเงินก็เปรียบเสมือนการปักหมุดจุดหมายของคุณลงไปในแผนที่หรือ GPS ที่มีทั้งจุดหมายสั้น ๆ รายทาง ไปจนถึงเป้าหมายระยะยาวที่สำคัญที่สุดในทริปนั้น อ่านบทความนี้จบแล้ว อย่าลืมหาเวลาถามตัวเองว่าตั้งใจจะทำอะไร แล้วลงมือวางแผนการออมเงินเพื่อให้ไปถึงจุดหมายตามที่หวัง และถ้าอยากเพิ่มสีสันให้กับการเก็บเงิน สามารถดาวน์โหลด Kept by krungsri แอปเก็บเงินแนวใหม่มาช่วยให้การออมแบบออนไลน์เป็นเรื่องไม่ยากและเหมาะกับชีวิตในยุค New Normal แบบสุด ๆ