ไขข้อสงสัยพร้อมสรุป กองทุน Thai ESGX มีเงื่อนไขยังไง และลดหย่อนภาษีเท่าไหร่
Highlight
นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับผู้มีรายได้ที่ปีนี้มีกองทุนลดหย่อนภาษีใหม่ล่าสุดออกมา คือ “กองทุน Thai ESGX” ซึ่งหลาย ๆ คนอาจยังไม่รู้จักว่ากองทุนนี้คืออะไร ใช้ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ เงื่อนไขการลงทุนเป็นอย่างไร รวมถึงมีกองทุนลดหย่อนภาษีตัวไหนอีกบ้างที่น่าสนใจ วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักและไขข้อข้องใจในทุกประเด็น เพื่อให้สามารถเลือกกองทุนลดหย่อนภาษีที่เหมาะสม ตรงตามความต้องการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของคุณ
ไขข้อข้องใจ กองทุน Thai ESGX คืออะไร
กองทุน Thai ESGX หรือ Thai ESG Extra เป็นกองทุนรวมลดหย่อนภาษีใหม่ที่จัดตั้งขึ้นในปี 2568 เพื่อสนับสนุนการลงทุนในบริษัทที่มีความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance หรือ ESG) กองทุนนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อรองรับการสับเปลี่ยนเงินลงทุนจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ กองทุน LTF เดิม และเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนใหม่เข้าร่วมลงทุนด้วยสิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุน Thai ESGX
- สำหรับผู้ลงทุนที่สับเปลี่ยนจาก LTF เดิม: สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 500,000 บาท โดยแบ่งเป็นปีแรก (2568) ลดหย่อนได้สูงสุด 300,000 บาท และในปีที่ 2-5 (2569-2572) ลดหย่อนได้ปีละไม่เกิน 50,000 บาท รวมเป็น 200,000 บาท
- สำหรับการลงทุนใหม่ในปี 2568: ผู้ลงทุนสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท โดยไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน ซึ่งไม่ได้นำไปไม่นับรวมกับกองทุนลดหย่อนภาษีอื่น ๆ จึงถือเป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เพิ่มขึ้นมาในปีนี้
เงื่อนไขการลงทุนและการถือครองกองทุน Thai ESGX
สำหรับใครที่กำลังมองหากองทุนที่ตอบโจทย์การลงทุนอย่างยั่งยืนและมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ทางภาษี กองทุน Thai ESGX อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับกองทุนลดหย่อนภาษีมือใหม่ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน ต้องเข้าใจเงื่อนไขการลงทุนและการถือครองก่อน เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด ซึ่งระยะเวลาการลงทุนนั้น ผู้ลงทุนต้องถือครองหน่วยลงทุนในกองทุน Thai ESGX อย่างน้อย 5 ปี นับจากวันที่เริ่มลงทุนหรือวันที่สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน โดยกองทุน Thai ESGX จะเปิดให้ลงทุนในช่วงระยะเวลา 2 เดือน คือเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน 2568สินทรัพย์ในกองทุน Thai ESGX
สินทรัพย์ที่ลงทุนได้ของกองทุน Thai ESGX จะเป็นแบบเดียวกับหลักเกณฑ์เดิมของกองทุน Thai ESG ซึ่งต้องลงทุนในสินทรัพย์ด้านความยั่งยืนไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV แต่กองทุน Thai ESGX จะมีข้อกำหนดเพิ่มเติม คือ- ต้องลงทุนในหุ้นยั่งยืนทั้งใน SET หรือ MAI ไม่น้อยกว่า 60% ของ NAV
- กลุ่มตราสารหนี้ที่มีความยั่งยืน
- โทเคนดิจิทัลเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน
- การลงทุนอื่น ๆ เช่น เงินสด หรือหลักทรัพย์ต่างประเทศ จะต้องไม่เกิน 20% ของ NAV
กองทุนลดหย่อนภาษีมือใหม่ มีกองทุนอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกไหม
ใครที่ซื้อกองทุน Thai ESGX ไปแล้ว แต่ยังลดหย่อนภาษีได้ไม่เต็มแม็กซ์ ยังสามารถซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีอื่น ๆ เพิ่มเติมได้เช่นกัน คือ1. กองทุน RMF (Retirement Mutual Fund)
กองทุน RMF (Retirement Mutual Fund) หรือ “กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ” คือ กองทุนรวมที่ออกแบบมาเพื่อการลงทุนระยะยาว เน้นเป้าหมายเพื่อการมีเงินไว้สำหรับใช้จ่ายหลังเกษียณอายุ ถ้าเป้าหมายของการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีมือใหม่ คือ การมีเงินใช้หลังเกษียณ กองทุนนี้ตอบโจทย์เป็นอย่างยิ่งเงื่อนไขของกองทุน RMF
- กองทุน RMF ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมิน และต้องไม่เกิน 500,000 บาท เมื่อรวมกับการออมและกองทุนเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ คือ ประกันชีวิตแบบบำนาญ, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน และกองทุนการออมแห่งชาติ
- หากเริ่มต้นลงทุนแล้วต้องลงทุนต่อเนื่อง หรืออย่างน้อยปีเว้นปี โดยไม่มีขั้นต่ำในการซื้อ
- ต้องถือครองกองทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี นับจากวันที่ซื้อแบบวันชนวัน และต้องถือครองจนถึงอายุ 55 ปีบริบูรณ์ จึงจะขายคืนได้แบบไม่ผิดเงื่อนไข
- ลงทุนได้หลากหลายสินทรัพย์ทั้งไทยและต่างประเทศ แต่ทุกกองทุนจะไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล
2. กองทุน Thai ESG
กองทุน Thai ESG หรือ Thailand ESG Fund คือ กองทุนรวมที่มุ่งเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจตามหลักการสิ่งแวดล้อม (Environmental), สังคม (Social), และธรรมาภิบาล (Governance) หรือที่เรียกว่า ESG ซึ่งเป็นแนวทางในการลงทุนที่คำนึงถึงการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ไม่เพียงแค่หวังผลกำไรทางการเงิน แต่ยังรวมถึงการดูแลสิ่งแวดล้อม การสร้างความเป็นธรรมในสังคม และการมีการบริหารจัดการที่ดีตามหลักธรรมาภิบาล โดยนโยบายการลงทุนของกองทุน Thai ESG กำหนดให้สามารถลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ไทย ที่มีการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ ESG
เงื่อนไขของกองทุน Thai ESG
- ผู้ลงทุนสามารถลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมิน และต้องไม่เกิน 300,000 บาท โดยแยกวงเงินจากกองทุนลดหย่อนภาษีอื่น ๆ
- หากเริ่มต้นลงทุนแล้วต้องลถือครองกองทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี นับจากวันที่ซื้อแบบวันชนวัน
- ลงทุนได้เฉพาะสินทรัพย์ในประเทศไทย และมีกองทุนที่มีนโยบายจ่ายปันผลให้เลือก
จะเห็นได้ว่ากองทุน Thai ESGX มอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมในปี 2568 นี้ ซึ่งหากผู้ลงทุนใช้สิทธิลดหย่อนภาษีแบบเต็มแม็กซ์ ทั้งกองทุน Thai ESGX, กองทุน Thai ESG และ กองทุน RMF จะสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 1,400,000 บาทเลยทีเดียว แต่ก่อนลงทุนควรพิจารณาอย่างรอบคอบ อย่าลืมศึกษารายละเอียดของกองทุนให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน ส่วนสำหรับใครที่กำลังมองหาทางเลือกในการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีมือใหม่ ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกกองทุนไหนดี Kept by Krungsri มี “กระปุกลงทุน Kept Invest” ที่ช่วยคัดสรรกองทุนรวมคุณภาพจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ชั้นนำมากมาย เหมาะสำหรับผู้ลงทุนมือใหม่หรือผู้ที่ต้องการเริ่มต้นลงทุนแต่ยังไม่มั่นใจในการเลือกกองทุน ไม่รู้จะซื้อกองไหนดี สามารถขอคำแนะนำกับผู้เชี่ยวชาญการลงทุนได้ฟรีด้วยบริการ Kept advice โทร. 02-296-6299 กด 2 ใช้งานง่ายผ่านแอป Kept สะดวก รวดเร็ว สามารถลงทุนได้อย่างคล่องตัว อีกทั้งยังเลือกแผนการลงทุนให้เหมาะกับเป้าหมายของตัวเองได้อย่างยืดหยุ่น ตอบโจทย์ทั้งการออมเงินและการลงทุนได้ในแอปเดียว
คำเตือน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน- https://www.finnomena.com/finnomenafunds/thaiesg-extra/
- https://thaipublica.org/2025/03/cabinet-nods-tax-incentive-for-thai-esgx/
- https://www.finnomena.com/channel/tax-friend-rmf/
- https://www.finnomena.com/finnomenafunds/what-is-tesg/