รายได้เท่านี้ต่อปี ต้องเสียภาษีเท่าไร?

        ระบบการเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดามีอยู่หลายระบบ แต่ระบบที่ประเทศไทยบังคับใช้ตามกฎหมายคือ “การเก็บภาษี” แบบขั้นบันได วิธีนี้เป็นการคำนวณภาษีโดยแบ่งเงินได้สุทธิของผู้เสียภาษีออกเป็นขั้น ๆ ตามอัตราภาษีที่แตกต่างกัน โดยอัตราภาษีจะเพิ่มขึ้นตามเงินได้สุทธิที่เพิ่มขึ้น ตามอัตราดังต่อไปนี้/y

จำนวนรายได้สุทธิ	% อัตราการเสียภาษี
0 - 150,000 บาท	ได้รับการยกเว้นภาษี
150,000 - 300,000 บาท	5%
300,001 - 500,000 บาท	10%
500,001 - 750,000 บาท	15%
750,001 - 1,000,000 บาท	20%
1,000,001 - 2,000,000 บาท	25%
2,000,001 - 5,000,000 บาท	30%
มากกว่า 5 ล้านบาท	35%

 
       จริงอยู่ที่การเก็บภาษีแบบขั้นบันไดเป็นการลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ โดยผู้ที่มีรายได้สูงต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงกว่าผู้ที่มีรายได้น้อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าหากต้องเสียภาษีในอัตราที่มากกว่า 20% หรือ 30% ก็ถือว่าหนักหนาสาหัสไม่น้อย ดังนั้น ผู้มีรายได้ถึงเกณฑ์จึงควรรู้เคล็ดลับการลดหย่อนภาษี เพื่อให้เงินทุกบาททุกสตางค์ถูกใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด%
 

แนวทางการลดหย่อนภาษีที่ไม่เกี่ยวกับการลงทุน

       ผู้มีรายได้มีแนวทางการลดหย่อนภาษีมากมายหลายวิธี แต่เพื่อความเข้าใจง่าย จึงขอแบ่งวิธีการลดหย่อนภาษีออกเป็นหมวดหมู่ โดยเริ่มจากแนวทางลดหย่อนภาษีที่ไม่เกี่ยวกับการลงทุนก่อน ซึ่งมีดังต่อไปนี้
 

ค่าใช้จ่ายส่วนตัวและครอบครัว

• ลดหย่อนภาษีส่วนตัว: สามารถลดหย่อนได้ 60,000 บาท โดยไม่มีข้อจำกัดใด ๆ

• ลดหย่อนภาษีคู่สมรส: ถ้าหากคู่สมรสตามกฎหมายเป็นผู้ไม่มีรายได้ สามารถหักลดหย่อนได้ 60,000 บาท 

• ลดหย่อนภาษีบุตร: สำหรับผู้มีรายได้ที่มีบุตรชอบด้วยกฎหมายหรือบุตรบุญธรรม สามารถลดหย่อนภาษีได้คนละ 30,000 บาท โดยที่บุตรจะต้องมีอายุไม่เกิน 20 ปี (กรณีบุตรตามสายเลือดโดยชอบตามกฎหมาย สามารถลดหย่อนได้ตามจำนวนบุตรจริง แต่บุตรบุญธรรม สามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้สูงสุด 3 คน)

• ลดหย่อนภาษีบิดามารดา: กรณีที่บิดามารดาอายุเกิน 60 ปี และมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท ผู้มีรายได้สามารถลดหย่อนภาษีได้คนละ 30,000 บาท 

• ลดหย่อนภาษีผู้พิการ: ในกรณีที่มีชื่อเป็นผู้ดูแลผู้พิการตามกฎหมาย สามารถหักลดหย่อนได้ จำนวนคนละ 60,000 บาท

• ค่าฝากครรภ์และทำคลอด: ค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์และค่าคลอดบุตร สามารถนำไปหักลดหย่อนได้ไม่เกิน 60,000 บาท ต่อการคลอดบุตรหนึ่งคน นักลงทุนไม่ต้องเสี่ยงกับการลงทุนในหุ้นของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง การลงทุนในกองทุนรวมธีม AI มีการลงทุนในหลากหลายบริษัท เป็นการกระจายความเสี่ยงการลงทุน

ค่าใช้จ่ายกลุ่มเงินบริจาค

• เงินบริจาคเพื่อการกุศล: หักลดหย่อนได้เท่าจำนวนที่บริจาค แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน
• เงินบริจาคเพื่อการศึกษา: หักลดหย่อนได้ 2 เท่าของจำนวนที่บริจาค แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน
• เงินบริจาคเพื่อศาสนา: ลดหย่อนได้เท่าจำนวนที่บริจาค แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้หลังหักค่าลดหย่อน
• เงินบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์: หักลดหย่อนได้เท่าจำนวนที่บริจาค แต่ไม่เกิน 10% ของเงินได้พึงประเมิน
• เงินบริจาคให้แก่พรรคการเมือง: สามารถนำมาลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท

ค่าใช้จ่ายในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ

• ช็อปดีมีคืน: เป็นมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศจากทางภาครัฐ และตอบโจทย์สำหรับผู้มีรายได้ในการลดหย่อนภาษีด้วย โดยสามารถจับจ่ายซื้อสินค้าหรือบริการที่เข้าร่วมกับทางภาครัฐ ซื้อสินค้าและบริการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2567  และสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 50,000 บาทต่อคน ที่สำคัญปีนี้ไม่ต้องขอหรือคอยเก็บเอกสารใบกำกับภาษีเป็นกระดาษให้ยุ่งยาก และไม่ต้องกลัวหาย เพราะปีนี้เริ่มใช้ระบบออนไลน์ Easy E-Receipt ใบกำกับภาษีจะส่งเข้าในระบบอัตโนมัติของกรมสรรพากรไปเลย สะดวกสบายสุดๆ

 

แนวทางการลดหย่อนภาษีด้วยการซื้อประกันและการลงทุน

ค่าใช้จ่ายในการซื้อกองทุน

      จากที่เมื่อก่อนกองทุน SSF และ RMF  คือ 2 ตัวเลือกหลักในการลดหย่อนภาษี แต่ตอนนี้ได้มีกองทุนใหม่อย่าง Thai ESG เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ดังนั้น ในหัวข้อนี้จึงจะมาอธิบายรายละเอียดของแต่ละกองทุนแบบเข้าใจได้ง่าย เพื่อให้เลือกซื้อได้อย่างเหมาะสม

กองทุน SSF (Super Savings Fund)

• จุดประสงค์ของกองทุน: ส่งเสริมการออมระยะยาวของประชาชน
• ลดหย่อนได้มากน้อยแค่ไหน: หักลดหย่อนได้ 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
• ต้องถือครองนานแค่ไหน: ต้องถือครองอย่างน้อย 10 ปีแบบวันชนวัน
• กองทุน SSF ลงทุนในอะไรบ้าง: มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย ตั้งแต่ตราสารหนี้ไปจนถึงหุ้น

กองทุน RMF (Retirement Mutual Fund)

• จุดประสงค์ของกองทุน: สนับสนุนการออมเพื่อการเกษียณอายุ
• กองทุน RMF ลดหย่อนภาษีได้เท่าไร: ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และไม่เกิน 500,000 บาท (รวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ)
• RMF ต้องซื้อทุกปีไหม และต้องถือครองนานแค่ไหน: สามารถเว้นการลงทุนได้ไม่เกิน 1 ปีติดต่อกัน หรือก็คือสามารถซื้อแบบปีเว้นปีได้ ส่วนปีใดที่ไม่มีรายได้ก็ไม่ต้องซื้อ และต้องถือครองไม่น้อยกว่า 5 ปี 
• RMF ต้องซื้อเท่ากันทุกปีไหม: ไม่จำเป็นต้องซื้อเท่ากันทุกปี สามารถซื้อตามจำนวนที่ต้องการได้ 
• กองทุน RMF ลงทุนในอะไรบ้าง: มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย เช่นเดียวกับ SSF

กองทุน Thai ESG

• จุดประสงค์ของกองทุน: เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นเพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มการลงทุนที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล 
• ลดหย่อนภาษีได้เท่าไร: ลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ทั้งปี และไม่เกิน 300,000 บาท
• ต้องถือครองนานแค่ไหน: ต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปีแบบวันชนวัน
• กองทุน Thai ESG ลงทุนในอะไรบ้าง: ส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในหุ้นไทยและตราสารหนี้ไทยที่ผ่านเกณฑ์ ESG 

ข้อควรระวังในการลดหย่อนภาษี

• ไม่ใช่ประกันทุกประเภทจะสามารถลดหย่อนภาษีได้ แต่ต้องเป็นประกันชีวิต หรือประกันสุขภาพที่ทำกับบริษัทประกันในประเทศไทยเท่านั้น โดยประกันชีวิตจะต้องมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป และได้รับปันผลไม่เกิน 20%
• ในปัจจุบันกองทุนส่งเสริมการออม (SSFX) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ไม่สามารถลดหย่อนภาษีได้แล้ว

Kept by krungsri ตัวช่วยลดหย่อนภาษี ใช้งานได้สะดวก

      ได้รู้แล้วว่าการซื้อกองทุน SSF RMF รวมถึง Thai ESG เพื่อลดหย่อนภาษี มีรายละเอียดอะไรที่ต้องรู้บ้าง อย่างไรก็ดี ถ้าอยากให้การลดหย่อนภาษีเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิม “แผน Tax saving fund สูตรลงทุนช่วยลดหย่อนภาษี” จาก Kept by krungsri ที่กระปุกลงทุน Kept Invest ในแอปพร้อมแนะนำการลงทุนในกองทุน SSF และ RMF และ Thai ESG เพื่อลดหย่อนภาษี เริ่มต้นขั้นต่ำเพียง 1 บาท สนใจกองทุนของที่ไหนก็มีให้เลือกครบในที่เดียว แถมยังมีอัปเดตกองทุนลดหย่อนภาษีที่แนะนำอีกด้วย เพราะมีกองทุน SSF RMF และ ThaiESG ช่วยลดหย่อนภาษีให้เลือกจากทุก บลจ. ดาวน์โหลด Kept by krungsri ได้แล้ววันนี้ที่ App Store และ Google Play Store

สนใจซื้อกองทุนหลากหลายบลจ. ในที่เดียวง่ายๆ ที่กระปุกลงทุน Kept Invest powered by Finnomena ในแอปบริหารเงิน Kept by krungsri รู้จักกระปุกลงทุน Kept Invest คลิก

       ^{คำเตือน}

• ^{การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และศึกษาสิทธิประโยชน์ทางภาษีในคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน}